ปัญหาทันตกรรมจัดฟันเถื่อน!!
การจัดฟันเป็นหนึ่งในวิธีรักษาทางทันตกรรมซึ่งเป็นที่นิยมในปัจจุบัน
นอกจากจะช่วยแก้ปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพช่องปาก เช่น ฟันเก ฟันไม่สบกัน ได้แล้ว ยังช่วยปรับโครงหน้าของผู้จัดฟันให้เข้ารูป การจัดฟันจึงช่วยเสริมสร้างความมั่นใจและช่วยปรับปรุงบุคลิกภาพให้ดียิ่งขึ้นได้
การจัดฟันคืออะไร?
การจัดฟันเป็นวิธีช่วยแก้ไขปัญหาฟันที่มีการเรียงตัวผิดปกติ
ไม่สมดุล ให้เรียงตัวกันอย่างเหมาะสม ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของฟัน
โดยการใช้เครื่องมือภายนอกและภายในช่องปาก
เป็นตัวกระตุ้นทำให้เกิดการปรับแต่งโครงสร้างของฟันใหม่อย่างค่อยเป็นค่อยไป
โดยปกติแล้วการเคลื่อนตัวของฟันจะมีอัตรา 1 มิลลิเมตร ต่อ 1 เดือน
ทำไมต้องจัดฟัน?
เนื่องจากฟันของแต่ละคนมีขนาด
รูปร่าง และการเรียงตัวที่แตกต่างกัน โดยมีพันธุกรรมเป็นตัวกำหนด
บางครั้งฟันอาจเรียงตัวไม่เหมาะสมจนเกิดปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพช่องปาก เช่น
ทำความสะอาดฟันลำบาก มีปัญหาเรื่องการบดเคี้ยว เป็นต้น
การจัดฟันจะช่วยทำให้สุขภาพช่องปากดีขึ้น
ช่วยให้การบดเคี้ยวอาหารมีประสิทธิภาพรวมถึงช่วยลดอัตราเสี่ยงในการเกิดฟันผุ หรือโรคเหงือกได้ด้วย
นอกจากนี้การจัดฟันยังช่วยแก้ปัญหาช่องปากอื่นๆ
ได้อีก เช่น เป็นส่วนหนึ่งของการรักษาโรคปากแหว่งเพดานโหว่
หรือช่วยในเรื่องภาวะหยุดหายใจขณะหลับ
โดยทันตแพทย์จะใส่เครื่องมือในช่องปากเพื่อให้ทางเดินหายใจกว้างขึ้นและไม่ถูกอุดกั้นขณะหลับ
เพื่อป้องกันไม่ให้ลิ้น หรือเนื้อเยื่อในลำคอหย่อนลงไปอุดกั้นทางเดินหายใจขณะหลับ
ใครควรจัดฟันบ้าง?
ผู้ที่มีปัญหาฟันเก
ฟันซ้อน หรือฟันยื่นจนไม่สบกัน ปัญหาเหล่านี้จะทำให้ฟันสึกกร่อน เสียหาย
หรืออาจทำร้ายกล้ามเนื้อกรามได้ บางกรณีความผิดปกติดังกล่าวอาจพัฒนาจนส่งผลกระทบต่อรูปร่างของใบหน้า
แต่ทั้งนี้ต้องให้ทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้วินิจฉัย
โดยประเมินจากประวัติการรักษาทางการแพทย์ หรือทันตกรรม การตรวจในคลินิก
แบบฟันของบุคคลคนนั้น และฟิล์มเอ็กซเรย์
ปัญหาของฟันที่ทำให้ต้องมีการจัดฟัน
·
ฟันหน้ายื่น เป็นสาเหตุที่พบเห็นได้มากที่สุด
·
ฟันซ้อน มักเกิดกับผู้ที่มีโครงกรามแคบมัก
ทำให้พื้นที่ในช่องปากไม่กว้างพอสำหรับฟัน ส่งผลให้ฟันภายในช่องปากซ้อนทับกัน
·
ฟันคุด เป็นฟันแท้ที่ไม่งอกออกมา
หรืออยู่ในตำแหน่งผิดที่ผิดทาง หากงอกขึ้นมาอาจส่งผลกระทบต่อฟันซี่อื่นๆ ได้
·
ฟันไม่สมมาตรกัน บางคนมีจุดศูนย์กลางของฟันบนและฟันล่างไม่ตรงกันทำให้ฟันทั้งสองแถวไม่สามารถสบกันได้สมบูรณ์จนทำให้ดูเหมือนฟันเก
และมีปัญหาด้านการบดเคี้ยว
·
ฟันสบลึก ฟันแถวบนเลยหน้าฟันกรามมากเกินไปจนบังฟันล่างมิด
·
ฟันสบกลับ ฟันแถวบนสบอยู่ข้างหลังฟันล่าง
·
ฟันสบเปิด คือการที่ฟันบนและฟันล่างไม่สบกันแม้จะปิดปากแล้ว
โดยภาวะเช่นนี้มักเกิดมาจากการที่เด็กดูดหัวแม่มือตัวเองมาเป็นเวลานาน ๆ
ปัญหาทันตกรรมจัดฟันเถื่อน!!
การจัดฟันเป็นหนึ่งในวิธีรักษาทางทันตกรรมซึ่งเป็นที่นิยมในปัจจุบัน
นอกจากจะช่วยแก้ปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพช่องปาก เช่น ฟันเก ฟันไม่สบกัน ได้แล้ว ยังช่วยปรับโครงหน้าของผู้จัดฟันให้เข้ารูป การจัดฟันจึงช่วยเสริมสร้างความมั่นใจและช่วยปรับปรุงบุคลิกภาพให้ดียิ่งขึ้นได้
การจัดฟันคืออะไร?
การจัดฟันเป็นวิธีช่วยแก้ไขปัญหาฟันที่มีการเรียงตัวผิดปกติ
ไม่สมดุล ให้เรียงตัวกันอย่างเหมาะสม ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของฟัน
โดยการใช้เครื่องมือภายนอกและภายในช่องปาก
เป็นตัวกระตุ้นทำให้เกิดการปรับแต่งโครงสร้างของฟันใหม่อย่างค่อยเป็นค่อยไป
โดยปกติแล้วการเคลื่อนตัวของฟันจะมีอัตรา 1 มิลลิเมตร ต่อ 1 เดือน
ทำไมต้องจัดฟัน?
เนื่องจากฟันของแต่ละคนมีขนาด
รูปร่าง และการเรียงตัวที่แตกต่างกัน โดยมีพันธุกรรมเป็นตัวกำหนด
บางครั้งฟันอาจเรียงตัวไม่เหมาะสมจนเกิดปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพช่องปาก เช่น
ทำความสะอาดฟันลำบาก มีปัญหาเรื่องการบดเคี้ยว เป็นต้น
การจัดฟันจะช่วยทำให้สุขภาพช่องปากดีขึ้น
ช่วยให้การบดเคี้ยวอาหารมีประสิทธิภาพรวมถึงช่วยลดอัตราเสี่ยงในการเกิดฟันผุ หรือโรคเหงือกได้ด้วย
นอกจากนี้การจัดฟันยังช่วยแก้ปัญหาช่องปากอื่นๆ
ได้อีก เช่น เป็นส่วนหนึ่งของการรักษาโรคปากแหว่งเพดานโหว่
หรือช่วยในเรื่องภาวะหยุดหายใจขณะหลับ
โดยทันตแพทย์จะใส่เครื่องมือในช่องปากเพื่อให้ทางเดินหายใจกว้างขึ้นและไม่ถูกอุดกั้นขณะหลับ
เพื่อป้องกันไม่ให้ลิ้น หรือเนื้อเยื่อในลำคอหย่อนลงไปอุดกั้นทางเดินหายใจขณะหลับ
ใครควรจัดฟันบ้าง?
ผู้ที่มีปัญหาฟันเก
ฟันซ้อน หรือฟันยื่นจนไม่สบกัน ปัญหาเหล่านี้จะทำให้ฟันสึกกร่อน เสียหาย
หรืออาจทำร้ายกล้ามเนื้อกรามได้ บางกรณีความผิดปกติดังกล่าวอาจพัฒนาจนส่งผลกระทบต่อรูปร่างของใบหน้า
แต่ทั้งนี้ต้องให้ทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้วินิจฉัย
โดยประเมินจากประวัติการรักษาทางการแพทย์ หรือทันตกรรม การตรวจในคลินิก
แบบฟันของบุคคลคนนั้น และฟิล์มเอ็กซเรย์
ปัญหาของฟันที่ทำให้ต้องมีการจัดฟัน
·
ฟันหน้ายื่น เป็นสาเหตุที่พบเห็นได้มากที่สุด
·
ฟันซ้อน มักเกิดกับผู้ที่มีโครงกรามแคบมัก
ทำให้พื้นที่ในช่องปากไม่กว้างพอสำหรับฟัน ส่งผลให้ฟันภายในช่องปากซ้อนทับกัน
·
ฟันคุด เป็นฟันแท้ที่ไม่งอกออกมา
หรืออยู่ในตำแหน่งผิดที่ผิดทาง หากงอกขึ้นมาอาจส่งผลกระทบต่อฟันซี่อื่นๆ ได้
·
ฟันไม่สมมาตรกัน บางคนมีจุดศูนย์กลางของฟันบนและฟันล่างไม่ตรงกันทำให้ฟันทั้งสองแถวไม่สามารถสบกันได้สมบูรณ์จนทำให้ดูเหมือนฟันเก
และมีปัญหาด้านการบดเคี้ยว
·
ฟันสบลึก ฟันแถวบนเลยหน้าฟันกรามมากเกินไปจนบังฟันล่างมิด
·
ฟันสบกลับ ฟันแถวบนสบอยู่ข้างหลังฟันล่าง
·
ฟันสบเปิด คือการที่ฟันบนและฟันล่างไม่สบกันแม้จะปิดปากแล้ว
โดยภาวะเช่นนี้มักเกิดมาจากการที่เด็กดูดหัวแม่มือตัวเองมาเป็นเวลานาน ๆ
การจัดฟันมีกี่แบบ และประเภทของการจัดฟัน
1.การจัดฟันแบบโลหะธรรมดา (bRACKET BRANCE)
2.จัดฟันแบบดามอน (DAMON SYSTEM)
https://www.cosdentbyslc.com/cosdentbyslc-services/orthodontic/choosing-orthodontics/
หากคุณเป็นคนที่กลัวความเจ็บปวดจากการจัดฟัน การจัดฟันแบบดามอนเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคุณ ด้วยเทคโนโลยีพิเศษเฉพาะของเครื่องมือแบบบานพับและลวดชนิดพิเศษที่ทำให้การเคลื่อนฟันเป็นไปอย่างนุ่มนวล ระคายเคืองช่องปากน้อยกว่า และสามารถทำความสะอาดฟันได้ง่ายกว่าเพราะไม่มียางรัด
เครื่องมือเหมือนการจัดฟันชนิดโลหะ และที่สำคัญการจัดฟันดามอนทยังช่วยให้ไม่ต้องพบแพทย์บ่อยเหมือนการจัดฟันชนิดโลหะติดแน่นด้วยค่ะ ส่วนราคาการจัดฟันแบบดามอนจะมีราคาสูงกว่าการจัดฟันแบบโลหะติดแน่น เพราะการจัดฟันแบบดามอนให้สิ่งที่คุ้มค่ากว่าคือเวลาในการจัดที่น้อยลง และยังสบายกว่าเมื่อต้องเทียบกันระหว่างเครื่องมือติดฟัน โลหะยึดติด กับ แบบดามอน
3.การจัดฟันแบบใส หรือการจัดฟันแบบไม่ติดเครื่องมือ
การจัดฟันด้วยเครื่องมือถอดได้แบบใส
แบ่งได้เป็น 2 แบบหลักๆ
3.1 จัดฟันใสด้วยเครื่องมือที่ถอดได้ หรือ จัดฟันแบบใส ( Clear Aligner )
การจัดฟันใส (Clear Aligner) จะเหมาะกับกลุ่มประเภทคนที่มีปัญหาเรื่องแนวฟันดังนี้
1. เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาแนวฟันไม่เรียงเป็นระเบียบแบบเล็กน้อย
2. เหมาะกับผู้ที่เคยจดฟันมาก่อน แล้วไม่ค่อยได้ใส่รีเทนเนอร์
ข้อดีของการจัดฟันใส เคลียร์ อไลน์เนอร์ คือ การจัดฟันใสนี่ ตามชื่อเลยว่า เครื่องมือจัดฟันมีความใส ทำให้คนรอบข้าง แถบจะมองไม่เห็นอุปกรณ์จัดฟัน ว่าง่ายๆคือพรางตา และสามารถยังสามารถทำให้การรับประทานอาหารระหว่างจัดฟันอยู่นั้น ยังคงได้รับอรรถรสที่ดีขึ้นด้วย เพราะเมื่อหิวก็สามารถถอดออกได้ ไม่ว่าจะเป็นการรับประทานอาหาร รวมถึงการแปรงฟันอีก โดยมีข้อสำคัญคือจะต้องมาพบแพทย์ทุกเดือน ตามวันนัดที่ได้รับไป เพื่อให้คุณหมอตรวจเช็คการเคลื่อนที่ของฟันและปรับเครื่องมือ
การจัดฟันประเภทนี้มีราคาสูงกว่าการจัดฟันแบบโลหะ (metal braket) ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัญหาฟันของแต่ละบุคคลด้วย
3.2 จัดฟันใส(อินวิสไลน์)ด้วยเครื่องมือที่ถอดได้แบบ Invisalign
Invisalign นับว่าเป็นเทคโนโลยีการจัดฟันใสที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ซึ่งดารานักแสดงมักจะเลือกการจัดฟันแบบนี้
คุณสามารถเห็นผลลัพธ์ของการจัดฟันได้ตั้งแต่ตอนที่มาปรึกษาจัดฟัน ข้อดีของการจัดฟันใสแบบ Invisalign นอกจากความสะดวกสบายแล้ว ยังมองไม่เห็นเครื่องมือจัดฟัน
สามารถถอดออกมาตอนรับประทานอาหารหรือทำความสะอาดฟัน ไม่ต้องมาพบแพทย์บ่อยเหมือนการจัดฟันชนิดอื่น และลดโอกาสการเกิดปัญหาฟันผุขณะที่จัดฟันอีกด้วย การจัดฟันแบบนี้จึงเหมาะกับผู้ที่ไม่ค่อยมีเวลามาพบแพทย์ หรือไม่ต้องการเครื่องมือจัดฟันที่ติดแน่นบนผิวฟัน ส่วนราคาการจัดฟันชนิดนี้มีราคาสูงกว่าการจัดฟันประเภทอื่นๆ เนื่องจากเป็นการทำโดยแล็ปที่อเมริกาทำให้มีราคาที่สูงกว่า รวมถึงคุณสมบัติที่ได้กล่าวมาในข้างต้น
การจัดฟันแฟชั่นเป็นอย่างไร ?
เนื่องจากการจัดฟันโดยทันตแพทย์มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง หลายคนจึงเลือกใช้วัสดุจัดฟันที่ทำขึ้นมาเลียนแบบซึ่งอาจหาซื้อได้จากร้านค้าออนไลน์ ตลาดนัด หรือคลินิกจัดฟันแฟชั่นที่ผิดกฎหมาย โดยการจัดฟันแฟชั่นที่พบได้ทั่วไปมีหลายลักษณะ ร้านจัดฟันแฟชั่นบางแห่งอาจใช้เครื่องมือแบบติดแน่นเป็นโลหะทรงสี่เหลี่ยมที่มีร่องสำหรับใส่ลวดและคล้องยางสีต่าง ๆ คล้ายอุปกรณ์จัดฟันจริง กระทั่งใช้อุปกรณ์แบบถอดได้ที่มีลักษณะคล้ายเครื่องมือคงสภาพฟันหลังการจัดฟัน หรืออาจดัดแปลงวัสดุใช้งานทั่วไปที่ไม่ใช่อุปกรณ์ทางทันตกรรมมาใช้จัดฟัน
ตัวอย่างวัสดุที่ถูกนำมาดัดแปลงเพื่อใช้จัดฟันแฟชั่น มีดังนี้
- หนังยาง หรือยางรัดผม
- ไหมขัดฟัน
- ลวดหนีบกระดาษ
- เส้นลวดขนาดเล็ก
- ลูกปัด
- วัสดุอื่น ๆ ที่ไม่ได้มาตรฐานการจัดฟันตามปกติ
อันตรายจากการจัดฟันแฟชั่น
ผู้ที่ให้บริการจัดฟันแฟชั่นมักเป็นผู้ที่ไม่มีความรู้ทางทันตกรรม โดยอาจไม่เตรียมความพร้อมในช่องปากให้ผู้รับบริการก่อนจัดฟัน เช่น ไม่อุดฟันซี่ที่ผุ ไม่ขูดหินปูน เป็นต้น และอุปกรณ์หรือวัสดุจัดฟันที่ใช้ก็อาจไม่สะอาด ไม่มีคุณภาพ หรือไม่ผ่านการฆ่าเชื้ออย่างถูกต้อง ซึ่งปัจจัยเหล่านี้อาจก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพช่องปากตามมาได้ ดังนี้
อาการแพ้ วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้จัดฟันแฟชั่นอาจไม่มีคุณภาพและปนเปื้อนสารเคมี เช่น สารปรอท สารตะกั่ว สารหนู หรือแคดเมียม เป็นต้น ซึ่งเมื่อสารดังกล่าวสะสมอยู่ในร่างกายปริมาณมากก็อาจกระตุ้นให้เกิดอาการแพ้
อักเสบและติดเชื้อ อุปกรณ์ที่ไม่สะอาดและไม่ได้ผ่านการฆ่าเชื้ออาจทำให้เสี่ยงติดเชื้อโรคต่าง ๆ เช่น ไวรัสตับอักเสบ และวัณโรค เป็นต้น รวมถึงเศษอาหารและคราบจุลินทรีย์ที่ติดสะสมอยู่รอบ ๆ วัสดุจัดฟันก็อาจทำให้ฟันผุติดเชื้อ เป็นโรคเหงือกอักเสบหรือมีกลิ่นปากได้
ฟันหรือเหงือกเสียหาย อุปกรณ์ที่ไม่ได้มาตรฐานอาจบาดหรือกดกระพุ้งแก้มและเหงือกจนเกิดเป็นแผลหรือแผลเรื้อรังจนเสี่ยงเป็นมะเร็งช่องปากได้ ส่วนการปรับแต่งลวดภายในช่องปากโดยผู้ที่ไม่มีความรู้ก็อาจเกิดแรงกดที่ตัวฟันมากเกินไปจนทำให้ปวดฟันมาก ฟันเคลื่อนผิดตำแหน่ง ฟันตายจนเปลี่ยนเป็นสีคล้ำ หรืออาจรุนแรงถึงขั้นรากฟันละลายและต้องถอนฟันซี่นั้นออกไป
อันตรายอื่น ๆ เนื่องจากการจัดฟันแฟชั่นเป็นการนำวัสดุต่าง ๆ มาใช้อย่างผิดจุดประสงค์ หรือเป็นการนำวัสดุที่ไม่ได้มาตรฐานมาใช้จัดฟัน อีกทั้งผู้ให้บริการเป็นผู้ที่ไม่มีความรู้ทางทันตกรรม จึงอาจทำให้อุปกรณ์จัดฟันหลุดลงคอหรือหลอดลม ซึ่งเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
การจัดฟันแฟชั่นอันตรายถึงชีวิต!!
งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง